เมื่อเด็กสนใจหรือชอบที่จะทำกิจกรรมนั้น ขณะนั้นสมองจะเป็นอย่างไร
สมองที่ตื่นตัว สนใจ มีความคาดหมาย จะเริ่มเก็บรับข้อมูลเชื่อมโยงประสบการณ์ หาความหมาย สร้างการรับรู้ขึ้นใหม่ ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนการรับรู้นั้นจะถูกแยกแยะจัดกลุ่ม และทดสอบ สมองจะสร้างแบบจำลองเพื่อทดสอบการรับรู้ในสมอง พร้อมกับมีการปฏิบัติที่จำเป็นคือ ลองคิด ลองทำ ผลลัพธ์จากการคิดและการกระทำนั้น อาจจะยืนยันว่าความคิด ความเข้าใจนั้นถูกต้องแล้ว มิฉะนั้นก็เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่ตรงกับการรับรู้นั้นเข้าไว้ทั้งหมดนี่ก็คือ การคิดของสมอง
การคิดของสมอง ยังย้อนกลับเป็นวิธีการที่ทำให้สมองเพิ่มความสนใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้น ในระหว่างการคิด ถ้ามีความสำเร็จในการคิด(คิดออก) คือ ผลลัพธ์จากการลองคิด ลองทำ ตรงกับแบบจำลองการรับรู้ที่คาดการณ์ไว้ จะมีการหลั่งสาร โดปามีน เพิ่มขึ้นอีกในวงจรสมองส่วนหน้านั้น สารตัวนี้ทำให้เราเกิดความรู้สึกพอใจ อยากทำสิ่งเดิมอีก และเพิ่มความสนใจในสิ่งที่คิดนั้น
นี่คือ วิธีการทำให้เกิดความสนใจขึ้น และเกิดต่อเนื่องกันไปในการเรียนรู้ที่สนุกและท้าทาย
ความเข้าใจ ความหมาย ความพอใจ ความสนุก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการคิดหรือทำของสมองที่ประสบความสำเร็จ โดปามีนจะถูกส่งมาจากกลุ่มเซลล์ในระบบโดปามีนบนก้านสมอง ส่วนวงจรอารมณ์ จะส่งสัญญาณมากระตุ้นสมองส่วนหน้าให้คิด และตัดสินใจ ทำสิ่งต่างๆ เช่น อ่าน อ่าน และอ่านต่อไปไม่หยุด ก็เพราะมีการรับรู้ และคาดหมายบางอย่าง และสิ่งนั้นน่าสนุกจริงๆ
ส่วนความมุ่งมั่นของเด็กมาจากการมีเป้าหมายที่ชัดเจน และมีความพอใจที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น ซึ่งโดยทั่วไปก็พัฒนามาจากความสนใจต่อบางสิ่งที่ทำแล้วรู้สึกพอใจ สนุก มีความหมาย ความจริงแล้ว ความมุ่งมั่นของผู้ใหญ่ก็คงไม่ต่างกัน ในสมองของเด็กที่มีความมุ่งมั่น รวมทั้งพอใจที่จะต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ย่อมพร้อมจะรับมือกับการเรียนรู้และ “งาน” ที่หนักอย่างไม่ย่อท้อ คำพูดที่ว่า การเรียนรู้จะต้องมีความเพลิดเพลินนั้นไม่จริงเสมอไป ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ไม่สนุก สมองที่มีความมุ่งมั่นก็ยังยอมที่จะต่อสู้ฝ่าฟัน นี่คือจุดสำคัญในการพัฒนาเด็ก ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน ความแปลกใหม่นั้น ช่วยกระตุ้นความสนใจได้ดี แต่สมองส่วนหน้าที่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าจะ “สู้” นั่นแหละที่สำคัญในท้ายที่สุด