เคยสงสัยไหมคะ สมองเด็กยุคเทคโนโลยี ไอทีจะเป็นอย่างไร
การสนใจสิ่งหนึ่ง แล้วเปลี่ยนไปสนใจอีกสิ่งหนึ่งเป็นธรรมชาติที่สำคัญของสมอง
ปัจจุบันนี้ สมองของเด็กต้องรับศึกหนัก เพราะโลกรอบตัวนั้นเต็มไปด้วยเทคโนโลยี เมื่อปี พ.ศ. 2550 มีการสำรวจเด็กในประเทศสหรัฐอเมริกา 1000 ตน พบว่าสิ่งที่เด็กทำในวันหนึ่งๆ นั้นคือ ร้อยละ 75 ดูโทรทัศน์ ร้อยละ 32 ดูวีดิทัศน์ และใช้เวลาไปในการเสพสื่อเหล่านี้เฉลี่ยวันละ 1 ชั่วโมง 20นาที ในจำนวนนี้ยังพบว่า เด็กอายุ 5-6 ขวบ ใช้เวลาเพิ่มอีก 50 นาทีอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ถ้านำสถิตินี้มาเปรียบเทียบกับสถิติในประเทศไทยก็คงไม่ต่างกัน และที่แน่ๆ มีเด็กจำนวนมากใช้เวลากับสื่อเทคโนโลยีนานเกินกว่าที่นักวิจัยได้สำรวจไว้นี้เสียอีก
โดยปกติแล้ว วิธีการเรียนรู้ของสมองมนุษย์เกิดขึ้นโดยการโต้ตอบ กับสิ่งแวดล้อม นั่นคือ จะตอบรับต่อข้อมูลที่ได้รับเข้ามาในสมอง โดยตัดสินใจว่า จะมีพฤติกรรมอย่างไร หรือทำอะไร เช่น ถ้าเราวิ่งเร็วๆ เราเหนื่อย เราก็หยุด ถ้าเราเห็นลูกหมาน่ารักเราก็อยากจะอุ้ม ถ้าหมาหน้าตาน่ากลัว เราวิ่งหนี ถ้าหนังสือน่าสนุกเราก็อ่านต่อ หนังสือน่าเบื่อเราหยุดอ่าน แต่เมื่อเด็กอยู่หน้าจอโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ครั้งละนานๆ สมองกลับไม่ได้ทำตามธรรมชาติแบบนี้สมองทำงานในลักษณะที่ต่างออกไป
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษาดูผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสมอง ได้พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในการทำงานบางอย่างเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ เช่น การท่องอินเทอร์เน็ตนั้น สมองเหมือนถูกหลอกล่อให้สนใจอยู่กับการหลั่งไหลของข้อมูลที่ปรากฏขึ้นบนจอ โดยที่ไม่อาจให้ความสนใจกับเนื้อหาของข้อมูลอย่างจริงจัง ไม่ได้มีเวลาที่จะตอบโต้และจัดระบบความคิดเกี่ยวกับข้อมูลนั้น
ความลับสมองของลูก. กรุงเทพ : สำนักงาน, 2552