นิทาน และการเล่าเรื่อง สำหรับเด็กปฐมวัย
นิทานและการเล่าเรื่อง หมายถึง เรื่องราวที่เล่าต่อๆกันมาเป็นเวลานาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อความสนุกสนาน และให้ประโยชน์ต่อพัฒนาการ และการเรียนรู้ที่เหมาะกับธรรมชาติของเด็กปฐมวัยเป็นอย่างมาก นิทานจะช่วยพัฒนาการฟังและการพูด ให้ความรู้ ความสนุกสนาน และจินตนาการแก่เด็ก ทั้งยังฝึกสมาธิให้เด็กรูจักสำรวมใจให้จดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง ซึ่งเป็นพื้นฐานการเตรียมความพร้อมด้านการอ่านหนังสือ และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กไปพร้อมกัน
ลักษณะความสนใจนิทานของเด็กปฐมวัย ความเหมาะสมของนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยจำเป็นต้องคำนึงถึงความสนใจการรับรู้ และความสามารถตามวัยของเด็กเป็นสำคัญ จึงยังเกิดประโยชน์ที่แท้จริงต่อการเรียนรู้ของเด็ก เด็กจะเริ่มรับรู้นิทานจากภาพที่มองเห็น และเสียงที่ได้ยิน โดยรู้ความหมายไปทีละน้อย จนสามารถเชื่อมโยงภาพและบอกเล่าที่ได้ยินตลอดจนจำเนื้อหาเรื่องราวต่างๆที่นำไปสู่การอ่านหนังสือได้อย่างมีความหมายต่อไป
1.ความสนใจนิทานเด็กอายุ 0-1 ปี
เด็กวัยนี้จะสนใจฟังเสียงที่อยู่รอบตัว รู้จักหันหาเสียงที่ได้ยิน ชอบมองสิ่งที่เคลื่อนไหวไปมา มีการเลียนเสียงที่ได้ยิน นิทานที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ควรเป็นหนังสือที่เป็นภาพเขียนง่ายๆ มีสีสันสดใส ขนาดใหญ่และชัดเจนเป็นภาพเดี่ยวๆที่ดูมีชีวิตชีวา รูปเล่มอาจทำด้วยผ้าหรือพลาสติกหนานุ่ม ให้เด็กหยิบเล่นได้
2.ความสนใจนิทานของเด็กอายุ 1-2 ปี
เด็กวัยนี้เริ่มหยิบจับสิ่งของไว้ในมือได้มั่นคง รู้จักพูดเป็นคำๆ สนใจฟังคนพูดและเรื่องเล่าต่างๆ แต่มีความสนใจสั้นมาก ชอบทำอะไรซ้ำๆ นิทานที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ ควรเป็นหนังสือภาพหรือเรื่องสั้น นิทานที่มีภาพประกอบที่ชัดเจนมีขนาดใหญ่ มีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเด็กเอง เกี่ยวกับครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง หรือสัตว์เลี้ยงรูปเล่มทำด้วยกระดานหนาขนาดพอมือเด็กจับได้
3.ความสนใจนิทานของเด็กอายุ 2-4 ปี
เด็กวัยนี้ชอบฟังเรื่องราวใกล้ตัว เด็กสนใจเรื่องที่เกิดในชีวิตจริง ชอบฟังคำคล้องจอง กลอนกล่อมเด็ก นิทานที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ควรเป็นนิทานที่เป็นบทร้อยกรองสำหรับเด็ก มีภาพประกอบที่มีรายละเอียดไม่มากนัก มีสีสันสดใส น่าสนใจ รูปเล่มอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นพอมือเด็กจับ ได้ ทำด้วยกระดาษหนา
4.ความสนใจนิทานของเด็กอายุ 4-6 ปี
เด็กวัยนี้ชอบอยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัวเกี่ยวกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้มาจากไหน ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เริ่มเข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงกับเรื่องสมมุติ นิทานที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ควรเป็นนิทานที่เป็นเรื่องสั้น เข้าใจง่าย ส่งเสริมจินตนาการ และอิงความจริงอยู่บ้าง เนื้อเรื่องสนุกสนานน่าติดตาม มีตัวละครเอกเพียงตัวเดียว และตัวละครร่วมอีก 2-3 ตัว มีภาพประกอบที่มีสีสันสดใสสวยงาม มีตัวอักษรบรรยายเนื้อเรื่องไม่มากจนเกินไป และมีขนาดใหญ่สมควรใช้ภาษาง่ายๆ
หลักการเลือกนิทานที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย
นิทานมีหลายประเภทและหลายลักษณะแตกต่างกัน ทั้งที่เป็นนิทานที่แต่งเป็นโครง กลอน มีทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาว ทั้งที่เป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา เป็นเทพนิยายต่างๆ หรือเรื่องที่แต่งขึ้นมาใหม่ นิทานบางเรื่องสอดแทรกเนื้อหาในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม บางเรื่องส่งเสริมจินตนาการ บางเรื่องเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเด็ก การเลือกนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยเป็นเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึงหลักเกณฑ์บางประการ ดังนี้
1.การเหมาะสมกับวัย
เด็กในแต่ละวัยจะมีความสนใจฟังเรื่องราวแตกต่างกันไปตามความสามารถในการรับรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ นิทานที่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ควรเป็นหนังสือภาพ สมุดภาพ หนังสือภาพผสมคำ นิทานที่มีบทร้อยกรอง ในขณะที่นิทานที่เหมาะกับเด็กอายุ 3 ปี ขึ้นไปควรเป็นนิทานที่มีเรื่องราวที่เกี่ยวกับธรรมชาติ นิทานเรื่องเล่าให้ข้อคิด นิทานที่ส่งเสริมจินตนาการของเด็ก
2.ประโยชน์ที่เด็กได้รับ
การเลือกหนังสือต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่เด็กได้รับในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กด้วย เช่น สอนให้รู้จักคำเรียกชื่อสิ่งต่างๆ เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออก พัฒนากาความคิดจินตนาการ ให้ความรู้สึกที่ดีต่อเด็กความตลกขบขันให้ความสนุกสนาน ช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวเด็กเมื่อเปรียบเทียบตนเองกับตัวละครเป็นต้น การอ่านเรื่องราวหรือเนื้อหาของนิทานทั้งเล่มก่อนตัดสินใจเลือก จึงเป็นสิ่งสำคัญ
3.เนื้อหาและลักษณะรูปเล่ม
นิทานหรือหนังสือที่ดีสำหรับเด็กปฐมวัยควรเป็นเรื่องสั้นๆง่ายๆและไม่ซับซ้อน มีจุดเด่นของเรื่องจุดเดียว เด็กดูภาพหรือฟังเรื่องราวเข้าใจได้และสนุกสนาน มีเนื้อเรื่องที่ชัดเจนชวนติดตาม เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเด็ก และใกล้ชิดตัวเด็กหรือธรรมชาติแวดล้อม ไม่มีการบรรยาย เนื้อเรื่องควรมีลักษณะเป็นบทสนทนาโต้ตอบระหว่างตัวละคร ใช้ภาษาที่ถูกต้อง ง่ายต่อความเข้าใจของเด็กตัวอักษรมีขนาดใหญ่ใช้สีเข้มอ่านได้ชัดเจน มีภาพประกอบที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่องเป็นภาพที่มีสีสันสวยงามมีชีวิตชีวา ส่วนใหญ่จะเป็นภาพเขียนหรือวาดมากกว่าภาพถ่าย มีรูปเล่มที่แข็งแรงทนทาน ขนาดพอเหมาะกับมือเด็ก ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมเสมอไป และมีจำนวนหน้าประมาณ 10-20 หน้า
วิธีการเล่านิทานและเรื่องราวสำหรับเด็ก
เมื่อเลือกนิทานหรือเรื่องราวที่เหมาะสมกับวัยของเด็กแล้ว วิธีการเล่าเพื่อให้เด็กเกิดความสนใจติดตามฟังเนื้อเรื่องจนจบ จำเป็นต้องทำให้เหมาะสมกับเรื่องที่จะเล่าด้วย การเล่าเรื่องโดยไม่มีอุปกรณ์ เป็นการเล่านิทานด้วยการบอกเล่าด้วยน้ำเสียงและลีลาของผู้เล่า ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.การขึ้นต้นเรื่องที่จะเล่าควรดึงดูดความสนใจเด็กโดยค่อยๆเริ่มเล่าด้วยเสียงชัดเจน ลีลาการเล่าช้าๆ และเริ่มเร็วขึ้นจนเป็นการเล่าด้วยจังหวะปกติ
2.เสียงที่ใช้ควรจัดประโยคที่เล่าแบ่งเป็นประโยคสั้นๆได้ใจความ การเล่าดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ควรเน้นจังหวะการเล่าให้นานจะทำให้เด็กเบื่อ อีกทั้งไม่ควรตั้งคำถามหรือคำพูดอื่นๆที่เป็นการขัดจังหวะทำให้เด็กหมดสนุก
3.การใช้น้ำเสียง สีหน้า ท่าทาง แสดงให้สอดคล้องกับลักษณะของตัวละคร ไม่ควรพูดเนือยๆเรื่อยๆ เพราะทำให้ขาดความตื่นเต้น
4.นั่งเก้าอี้ให้เหมาะสมกับสายตาเด็ก
5.ใช้เวลาในการเล่าไม่ควรเกิน 15 นาที
6.ให้โอกาสเด็กได้คิดและวิจารณ์เรื่องที่เล่า
#เสริมพัฒนาการ, #ของเล่น #ฝึกพัฒนาการเด็ก, #พัฒนาการเด็ก, #ทักษะการเรียนรู้, #เสริมพัฒนาการเด็ก, #เสริมทักษะ, #brainschool, #ของเล่นฝึกสมาธิเด็ก, #ของเล่นเสริมพัฒนาการ, #ของเล่นพัฒนาสมอง, #ฝึกพัฒนาการลูกน้อย, #เสริมทักษะลูกน้อย,#ลูกพูดช้า, #ลูกไม่พูด, #โรงเรียนเสริมพัฒนาการ,#โรงเรียนเสริมทักษะนนทบุรี, #เรียนเสริม, #สมาธิซนอยู่ไม่นิ่ง #เด็ก2ขวบ #เด็ก3ขวบ #เด็ก4ขวบ#เด็ก5ขวบ #เด็ก6ขวบ
📚#คอร์สพัฒนาศักยภาพสมองเชาว