
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกสุดที่รักรู้จักแบ่งปัน ไม่ว่าจะกับพี่น้อง หรือเพื่อนคนอื่น แต่ถ้าลูกเป็นเด็กขี้แย่ง และหวงของเป็นที่สุด พฤติกรรมชอบแย่ง และหวงของเล่น
พญ.ตวงพร สุรพงษ์พิวัฒนะ จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และวัยรุ่น เขียนอธิบายไว้ในหนังสือเคล็ดลับเลี้ยงลูก 4 ดี ว่า เด็กอายุ 1 ขวบครึ่ง-2 ขวบครึ่ง มักจะรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของทุกอย่าง ทำให้หลายๆ คนเป็นนักแย่งมือฉกาจ และหวงของเล่นมาก เมื่อถูกแย่งของมักจะจู่โจมเพื่อทวงของคืนอย่างรุนแรง อาจถึงขั้นทุบที หรือขว้างปาสิ่งของกันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เด็กยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กเป็นคนก้าวร้าวหรืออารมณ์รุนแรง แต่เด็กรับรู้เฉพาะความรู้สึกต้องการของตัวเองเท่านั้น สำหรับวิธีปรับพฤติกรรมให้เด็กรู้จักแบ่งปัน ไม่ขี้แย่ง หรือหวงของเล่นนั้น
1. พ่อแม่ไม่ควรลงโทษให้เด็กเกิดความอายหรือเสียหน้า เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกถูกทอดทิ้ง ผลที่ตามมาคือ เด็กจะก้าวร้าวมากขึ้น และสับสนในเรื่องสิทธิและระเบียบวินัย
2. ถ้าเด็กจะไปแย่งของคนอื่น พ่อแม่ควรจับมือออก ไม่ให้แย่ง และไม่ดุเด็ก หรือใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจไปสิ่งอื่น ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร อาจารย์ประจำสาขาพัฒนาการมนุษย์ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาการเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า เด็กชอบแย่ง และหวงของเล่น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพราะเด็กวัยนี้จะจดจำและเลียนแบบพฤติกรรม ควรชมเมื่อลูกให้ของคนอื่น หรือชมเด็กอื่นให้ลูกเห็นเมื่อลูกได้รับการแบ่งปัน
ตัวอย่างบทสนทนากับเด็ก
"เวลาจะสอนเด็ก ให้นึกก่อนว่า เราจะสอนทักษะอะไรให้เด็ก ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ดุ หรือว่าเด็ก หากเด็กชอบแย่งของเล่น ไม่ควรคิดไปก่อนว่า ลูกหรือหลานเราอยากได้ของคนอื่น เขาแค่อยากเล่นค่ะ ดังนั้น คุยกับลูกว่า หนูอยากเล่นใช่ไหมคะ ลองถามเพื่อนดูสิว่า ขอเล่นได้ไหม ถ้าเพื่อนบอกว่าเล่นไม่ได้ ลองบอกลูกไปว่า ตอนนี้เพื่อนคงยังไม่พร้อมที่จะแบ่ง เดี๋ยววันหนึ่งที่เพื่อนพร้อม เขาก็จะแบ่งหนูเล่นเอง แต่วันนี้แม่พร้อมที่จะแบ่งลูกแล้ว เราไปเล่นอย่างอื่นกัน ตรงนี้จะช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเด็กให้สงบ และลดความอยากได้อยากเล่นของของเพื่อนลงไปได้” “ส่วนในกรณีที่เด็กไม่รู้จักแบ่งของ ควรฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ลองสร้างสถานการณ์สอนทักษะการแบ่งปันให้เด็กด้วยการพูดคุยกันก่อนว่า
“ถ้าหนูยังไม่พร้อมที่จะแบ่งน้อง/เพื่อน แม่ก็จะให้หนูเล่น” จากนั้นปล่อยให้เด็กเล่นไป แต่ในขณะที่เด็กกำลังเล่น ลองสร้างสถานการณ์การเล่นที่สนุกขึ้นมาอีกจุดหนึ่ง เชื่อเถอะค่ะว่า เด็กจะวิ่งมาเล่นด้วย ตรงนั้นล่ะค่ะ สอนทักษะเขาเลยว่า “หนูพร้อมที่จะแบ่งเล่นกับเพื่อนๆ แล้วเหรอคะ โอเคค่ะ ตอนนี้แม่พร้อมที่แบ่งหนูเล่นแล้ว หนูพร้อมที่จะแบ่งเพื่อนหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วเรามาเล่นด้วยกัน” แต่ถ้าเด็กไม่พร้อมที่จะแบ่ง ไม่ควรบังคับจิตใจเขามาก เพราะยิ่งบังคับ หรือลงโทษเด็ก จะยิ่งทำให้เด็กเกิดความก้าวร้าว ทางที่ดี ใจเย็นๆ และค่อยๆ สอนไปค่ะ”
ข้อมูลจากผู้จัดการ Online | Life & Family ประกอบจาก toysbros.com
ปัญหาการแย่งของเล่นมีสาเหตุมาจากอะไร?
สาเหตุที่ทำให้เด็กทะเลาะกันเพื่อแย่งของเล่นกันนั้น ได้แก่
- เด็กอยากเล่นของเล่นชิ้นเดียวกัน แต่ขาดทักษะในการเล่นร่วมกันกับผู้อื่น หรือทักษะในการแบ่งปัน
2. การแข่งกับพี่น้อง ซึ่งเด็กอาจรู้สึกอิจฉาพี่น้องคนอื่น หรือไม่ชอบใจที่พี่หรือน้องได้สิ่งที่ตนต้องการ โดยเห็นว่าเมื่อแย่งของเล่นมาได้แล้ว ของเล่นชิ้นนั้นก็จะตกมาเป็นของตน
3. ความต้องการเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่
4. เด็กขาดการแนะนำที่ถูกต้อง หรือผู้ปกครองเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม เช่น ผู้ปกครองไม่ได้ห้ามปรามเมื่อเห็นเด็กแย่งของเล่นผู้อื่น เด็กจึงคิดว่าการแย่งของเล่นไม่ใช่เรื่องผิด หรือในกรณีที่พ่อแม่ทำโทษเด็กที่แย่งของเล่นด้วยกำลังแทนที่จะใช้เหตุผล เด็กก็อาจไม่เข้าใจเหตุผลของการทำโทษที่แท้จริง อีกทั้งยังอาจซึมซับนิสัยการใช้กำลังจากผู้ปกครองได้อีกด้วย
5. ความต้องการควบคุมทุกสิ่งรอบตัว ซึ่งเด็กไม่สามารถควบคุมอะไรอื่นได้นอกจากของเล่นที่ตนเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองก็ต้องสอนความจำเป็นในการแบ่งปันให้แก่เด็ก ซึ่งอาจทำให้เด็กไม่เต็มใจ เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถในการควบคุมแม้กระทั่งของของตนเอง
6. การแสดงความเป็นเจ้าของ โดยเด็กจะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทันทีที่คนอื่นมาหยิบของเล่นไป ถึงแม้จะไม่ได้อยากเล่นของเล่นชิ้นนั้นก็ตาม
7. เด็กจะแย่งของเล่นตราบเท่าที่เด็กคนอื่นแสดงพฤติกรรมลักษณะเดียวกันกับตน ทั้งนี้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ และเพื่อเอาชนะอีกฝ่าย
8. พฤติกรรมก้าวร้าว อันเกิดจากถูกข่มขู่ ล้อเลียน จนทำให้รู้สึกโกรธหรือรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่า เด็กจึงตอบโต้ด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว
พ่อแม่ ผู้ปกครองจะช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาลูกแย่งของเล่นได้อย่างไร?
การเล่นของเล่นร่วมกับผู้อื่นของเด็กหลายๆ คนมักจะลงเอยด้วยการทะเลาะกัน แม้ว่าจะเป็นการเล่นระหว่างกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันก็ตาม ทั้งนี้เพราะเด็กยังขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง (Impulse Control) ดังนั้น พ่อแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้การแบ่งปัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกมีพัฒนาการทางสังคมอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งผู้ปกครองสามารถช่วยเหลือลูกได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. เตรียมลูกให้พร้อมกับการเล่นร่วมกับผู้อื่นด้วยกิจกรรมที่ต้องผลัดกันเล่น ทั้งนี้เพื่อให้ลูกเรียนรู้ความสำคัญของความตรงไปตรงมา และเข้าใจว่าตนย่อมได้สิทธิ์ในการเล่นอีกครั้งเพียงแต่ต้องรู้จักอดทนและรอ โดยพ่อแม่สามารถทำให้การรอคอยและการแบ่งปันเป็นเรื่องน่าสนุกได้ด้วยการแสดงความกระตือรือร้นในระหว่างที่รอให้ถึงตาตัวเอง
2. จัดให้ลูกได้เล่นกับเพื่อนคนอื่นตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงวัยและพัฒนาการทางสังคมของเด็ก เริ่มจากในขณะที่ยังเล็ก ซึ่งลูกสามารถได้รับประโยชน์จากการเล่นคนเดียวหรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกันกับเพื่อนที่เล่นในสิ่งเดียวกัน แล้วจึงจะสามารถเล่นร่วมกันกับผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตาม การจับให้ลูกเล่นร่วมกับผู้อื่นตั้งแต่ต้นอาจนำไปสู่ปัญหาการทะเลาะกัน เนื่องจากเด็กยังไม่พร้อมในการแบ่งปัน ดังนั้นหากพ่อแม่เห็นว่าลูกยังไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเล่นกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ได้ ควรเริ่มจากการให้ลูกเล่นกับเพื่อนเพียง 1-2 คน แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นไป
3. เตรียมลูกให้พร้อมด้วยการบอกล่วงหน้า โดยเมื่อเวลามีแขกหรือเด็กคนอื่นเข้ามาในบ้าน ลูกอาจกังวลว่าเด็กคนอื่นจะทำให้ของเล่นของตนเสียหาย หรือขโมยของเล่นของตนไป ดังนั้น หากลูกมีความมั่นใจว่าของเล่นทุกชิ้นอยู่ในสายตาของตน ความเป็นไปได้ที่ลูกจะยินยอมให้เพื่อนเล่นของเล่นด้วยย่อมมีมากขึ้น
4. คอยดูแลความเรียบร้อยในขณะที่ลูกกำลังเล่น ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ปกครองสามารถสังเกตพฤติกรรมการเล่นของลูกได้แล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งเมื่อลูกรู้ว่าผู้ปกครองคอยสังเกตอยู่ ลูกมักมาขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง มากกว่าเลือกที่จะทะเลาะกับเพื่อน หรือแย่งของเล่นคืนจากเพื่อน
5. สอนลูกทันทีที่เห็นลูกแย่งของเล่นจากเพื่อน โดยถือเป็นการแสดงให้ลูกเห็นอย่างชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผู้ปกครองควรหยิบของเล่นออกจากมือลูก แล้วยื่นกลับไปให้เพื่อนของลูก พร้อมทั้งย้ำเตือนว่าลูกควรแบ่งปันผู้อื่นอย่างหนักแน่นและคงเส้นคงวา
6. ยึดของเล่นชิ้นปัญหา หากเด็กยังคงทะเลาะกัน หรือลูกยังคงแย่งของเล่นคืนจากเพื่อน หลังจากที่ผู้ปกครองได้ตักเตือนลูกแล้ว นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังควรกล่าวขอโทษเพื่อนของลูก ซึ่งจะเป็นการสอนลูกให้เห็นความจำเป็นที่ลูกต้องแบ่งปันได้อย่างชัดเจน แม้ไม่ต้องพูดกับลูกโดยตรง
การแย่งของเล่น (Fighting over Toys Issues) ผู้เขียน: ปัณณ์พัฒน์ จันทร์สว่าง และตรวจสอบโดยบรรณาธิการบทความด้านจิตวิทยา: ดุสิดา ดีบุกคำ ศศ.ม. (จิตวิทยาพัฒนาการ)
#เสริมพัฒนาการ, #ของเล่น #ฝึกพัฒนาการเด็ก, #พัฒนาการเด็ก, #ทักษะการเรียนรู้, #เสริมพัฒนาการเด็ก, #เสริมทักษะ, #brainschool, #ของเล่นฝึกสมาธิเด็ก, #ของเล่นเสริมพัฒนาการ, #ของเล่นพัฒนาสมอง, #ฝึกพัฒนาการลูกน้อย, #เสริมทักษะลูกน้อย,#ลูกพูดช้า, #ลูกไม่พูด, #โรงเรียนเสริมพัฒนาการ,#โรงเรียนเสริมทักษะนนทบุรี, #เรียนเสริม, #สมาธิซนอยู่ไม่นิ่ง #เด็ก2ขวบ #เด็ก3ขวบ #เด็ก4ขวบ#เด็ก5ขวบ #เด็ก6ขวบ📚#คอร์สพัฒนาศักยภาพสมองเชาวน์ปัญญา #เสริมพัฒนาเด็กปฐมวัย 2-6 ปี