วิธีการฝึกกระตุ้นพัฒนาการ เพื่อปรับพฤติกรรมน้ำลายไหล พฤติกรรมน้ำลายไหล คือพฤติกรรมที่มีน้ำลายไหลออกจากปากบ่อยครั้งหรือตลอดเวลา โดยจะมีน้ำลายไหลเปื้อนริมฝีปาก คาง มุมปากทั้งสองข้างก็ได้
อาการที่พบบ่อย
เด็กอายุเกิน 2 ขวบแล้วแต่ยังมีน้ำลายไหลอยู่ ไหลย้อยจากปากลงมาที่คาง แม่มักเอาผ้ากันเปื้อนมาใส่ให้ เพื่อช่วยให้เสื่้อผ้าไม่เปียก และทำให้เด็กสบายตัวมากขึ้น
เมื่อฟันเด็กเริ่มขึ้น น้ำลายยังไหลมาก แต่ในบางเดือนก็ไหลน้อยลง แล้วกลับไหลมากขึ้นอีก เมื่อเวลาเด็กเล่นของเล่น หรือจ้องมองอะไรบางอย่าง น้ำลายจะไหลมากขึ้น เมื่อเด็กเริ่มหัดพูดน้ำลายเด็กจะไหลน้อยลง
สาเหตุ
1. น้ำลายไหลเกิดจากความผิดปกติ ในการควบคุมกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก ขากรรไกร และลิ้น ทำให้การควบคุมการเปิดปิดของริมฝีปาก และการเคลื่อนไหวของขากรรไกรในทิศทางต่างๆ ทำงานได้ไม่คล่อง ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำลายไหลตลอดเวลา
2. โครงสร้างของขากรรไกร และฟันของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่
3. เด็กขาดความสามารถในการฝึกควบคุมและยังไม่รู้จักที่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง
4. มีความพิการของสมองตั้งแต่เด็ก
วิธีการช่วยเหลือเบื้องต้น
1. สังเกตดูว่าเด็กพร้อมที่จะฝึกและช่วยเหลือตนเองเกี่ยวกับการมีน้ำลายไหลหรือยัง สามารถเข้าใจในสิ่งที่เราบอกเขาหรือไม่ และรู้ตนเองไหมว่ามีน้ำลายไหล
2. เริ่มสอนให่้เด็กรู้จักเปิดปาก โดยแตะที่ขากรรไกรเบาๆ เพื่อเตือนให้เด็กปิดปาก หรือแตะริมฝีปากบนและล่าง ในลักษณะจับเม้มเพื่อกระตุ้นให้ปิดปาก
3. ติดกระจกไว้ให้อยู่ในระดับที่เด็กสามารถมองเห็นตนเองได้บ่อยๆ เพื่อให้เด็กรู้จักควบคุมตนเอง
4. ให้อาหารที่ต้องใช้การเคี้ยวแก่เด็ก บางๆ นุ่มๆ
5. เล่นเกมส์เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง และการควบคุมกล้ามเนื้อหน้า และลิ้น เช่น เริ่มสอนให้เด็กเป่าขนนก ฟองสบู่ แตร หรือเป่าน้ำโดยใช้หลอดกาแฟ ให้เด็กแสดงสีหน้ารูปแบบต่างๆ และแลบลิ้นออกมาขณะส่องกระจก สอนให้เด็กเลียอมยิ้ม ฝีกให้เด็กแลบลิ่้นออก จากริมฝีปากด้านหน้า และด้านข้าง โดยป้ายแยมเล็กน้อย หรือหยดน้ำผึ้งลงบนริมฝีปาก เพื่อให้เด็กเลียเข้าปาก
6. สอนให้เด็กรู้จักคำว่ากลืน โดยพูดว่า กลืนนม กลืนน้ำลายสิจ๊ะ
7. ถ้าเด็กเผลอตัวปล่อยให้น้ำลายไหล ต้องเตือนเด็ก และชมเชยเมื่อเด็กพยายามทำตาม
*หลีกเลี่ยงการดูว่า การทำโทษ และไม่ย้ำถึงความผิดของเขา
การบำบัดพฤติกรรมน้ำลายไหล
- เทคนิคการควบคุมการเคลื่อนไหวของขากรรไกร
- เทคนิคควบคุมการเคลื่อนไหวของริมฝีปาก
- เทคนิคการควบคุมการเคลื่อนไหวของลิ้น






ขอขอบขอบคุณข้อมูลจาก
กลุ่มงานพยาบาล สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข