ลูกมีพัฒนาการทางภาษาและการพูดปกติไหมนะ
พัฒนาการเด็ก ตั้งแต่ 1 เดือน - 6 ขวบ สามารถพูดหรือทำอะไรได้บ้าง
เป็นการเรียนรู้การเข้าใจคําพูดของผู้อื่น โดยเริ่มจากการเข้าใจคําศัพท์ประเภทต่างๆเด็กจะสะสมความเข้าใจคําศัพท์อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะใช้คําศัพท์เหล่านี้ในการพูดสื่อภาษากับผู้อื่น คําศัพท์ที่เด็กเรียนรู้ประกอบด้วยคํานาม ที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์สิ่งของ อวัยวะร่างกายชื่อพืช ผัก ผลไม้และอาหาร ชื่อสี คําบอกความรู้สึก สัมผัส บอกสถานที่ ทิศทาง เวลา ขนาด จํานวน ระยะทาง กิริยาอาการ คําวิเศษณ์คําบุพบท และคําสันธาน เด็กปกติเรียนรู้คํานามได้ก่อนคําประเภทอื่น แต่เมื่ออายุมากขึ้นอัตราการเรียนรู้คํานามลดลง จะเรียนรู้คําประเภทอื่นแทน ได้แก่ คํากิริยา คําบุพบท คําวิเศษณ์ และคําสันธาน ด้านจํานวนคําศัพท์ที่เด็กรู้ก็มีจํานวนเพิ่มขึ้นจากจํานวนที่รู้จักเพียงแค่สิบคําเมื่ออายุ 1 ปี กลายเป็นเกือบ 2,000 คํา เมื่ออายุ 4 ปีในช่วงอายุ 2-4 ปี เด็กจะมีพัฒนาการด้านการเรียนรู้คําศัพท์ที่รวดเร็วมาก และมีอัตราการพัฒนาการสูงกว่าในช่วงอายุอื่นๆ การพัฒนาภาษาและการพูดเป็นไปตามลําดับขั้นดังแสดงให้ดูต่อไป
พัฒนาการทางภาษาและการพูดในด้านความเข้าใจและการใช้ภาษา
อายุ 1 เดือน เมื่อได้ยินเสียงดังเด็กจะสะดุ้งขยับตัวขยิบตา หรือร้องไห้ เด็กร้องไห้เมื่อหิว เปียกแฉะ หรือไม่สบาย
อายุ 3 เดือน เมื่อได้ยินเสียงแม่อยู่ใกล้ๆ เด็กจะยิ้มหรือนิ่งฟัง ทําเสียงอ้อแอ้เมื่อมีความพึงพอใจ
อายุ 6 เดือน หันไปมองยังที่มาของเสียงที่ไม่ดังนัก เล่นเสียงทีละพยางค์หรือสองพยางค์ เช่น กา-กา อา-คา เป็นต้น เริ่มเล่นเสียงต่าง ๆ
อายุ 9 เดือน ทําตามคําสั่งได้ เช่น บ๊ายบาย หยุดเล่นเมื่อถูกดุ หรือเมื่อบอกว่า “อย่า” ทําเสียงโต้ตอบไม่เป็นภาษาเมื่อมีคนมาพูดด้วย เลียนแบบการเล่นเสียงของผู้อื่น ทําเสียงเพื่อเรียกร้องความสนใจ เลียนเสียงแปลก ๆ เช่น สุนัขเห่า เสียงจิ้งจก
อายุ 12 เดือน หันไปหาเมื่อถูกเรียกชื่อ เข้าใจคําพูดที่ได้ยินบ่อยๆ เช่น “เอา” “ไม่เอา” เข้าใจคําศัพท์ได้10 คํา การเล่นเสียงไม่เป็นภาษายังมีอยู่ แต่เพิ่มจํานวนพยางค์มากขึ้น และพูดเสียงดังขึ้น เริ่มพูดคําที่มีความหมายได้ 2-3 คํา เช่น พ่อ แม่ หม่ำ ไป เป็นต้น ตอบสนองต่อคําพูดโดยใช้ท่าทางง่ายๆ เช่น พยักหน้า หรือสั่นหัว
อายุ 18 เดือน เข้าใจและทําตามคําสั่งง่ายๆ ได้เช่น “ไปเอารถมา” “นั่งลง” “ยืนขึ้น” เป็นต้น ชี้ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้1-3 อย่าง ชี้สิ่งของหรือบุคคลที่คุ้นเคยได้เมื่อบอกให้ชี้ เช่น “แม่อยู่ไหน” “พ่ออยู่ไหน” “นาฬิกาอยู่ไหน” เข้าใจคําศัพท์ได้ 50 คํา
อายุ 2 ปี ชี้ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ 5 อย่าง เข้าใจคําถามได้มากขึ้น เช่น “นี่อะไร” “...อยู่ไหน” ชี้รูปสิ่งของต่างๆ เมื่อบอกให้ชี้ได้ เข้าใจคําศัพท์ 1,200 คํา พูดคําที่มีความหมายได้ 50-400 คํา พูดเป็นประโยคที่ยาว 2-3 คําได้ เช่น “เอามา” “ไปเที่ยว” ยังคงชอบเลียนคําพูดผู้อื่น พูดเสียงวรรณยุกต์ได้ถูกต้องทุกเสียง พูดแบบไม่เป็นภาษาลดลงอย่างมากจนแทบไม่มีเลย
อายุ 3 ปี แสดงความสนใจที่จะฟังคําพูดเมื่อแม่อธิบายให้เด็กฟัง ชอบฟังนิทาน ชี้ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ไม่ต่ำกว่า 7 อย่าง เข้าใจคํากิริยาง่ายๆได้ เข้าใจคําศัพท์ 2,400-3,600 คํา เข้าใจคําสั่งที่เป็นประโยคยาวๆได้ เช่น “หนูกินข้าวให้เสร็จก่อนแล้วแม่จะพาไปนั่งรถ” เข้าใจคําบุพบท เช่น บน ใต้ ขึ้น ลง เป็นต้น เข้าใจคําวิเศษณ์ เช่น เก่ง ดี สวย ใหญ่ เป็นต้น บอกชื่อตนเองได้ ชอบพูดคนเดียวในขณะที่ทําสิ่งต่างๆ ชอบถามคําถามมากขึ้น เช่น “สีอะไร” “แม่อยู่ไหน” “นั่นใคร” พูดคําศัพท์ได้ 900-1,200 คํา พูดเป็นประโยคได้ประมาณ 3 คํา แต่อาจพูดไม่ชัด ชอบเล่าเหตุการณ์ที่กําลังประสบอยู่ มีการพูดไม่คล่องได้พูดเสียงสระได้ชัดเจนทุกเสียง เสียงที่พูดได้ชัดเจน คือ [ม น ห ย ค อ ว บ ป ก]
อายุ 4 ปี เข้าใจคําศัพท์ 4,200-5,600 คํา มีทักษะในการฟังดีขึ้น และตั้งใจฟังได้นานขึ้นพูดให้คนอื่นเข้าใจได้ดีแต่พูดไม่ชัด พูดเป็นประโยคยาวๆ 4 คําโดยเฉลี่ย เล่าเรื่องได้โดยมีเนื้อหาที่ต่อเนื่องกัน พูดโอ้อวดและวิจารณ์ผู้อื่น ชอบถาม “ทําไม” “เมื่อไร” พูดได้ตั้งแต่ 1,500-1,800 คํา ใช้ประโยคที่ซับซ้อนได้มากขึ้น มีลักษณะทางไวยากรณ์เกือบสมบูรณ์ สามารถบอกคําตรงกันข้ามได้เช่น “ช้างตัวใหญ่” “กระต่ายตัวเล็ก” เสียงพยัญชนะที่พูดได้เพิ่มเติมคือ [ท ต ล จ พ ง ด]
อายุ 5 ปี เข้าใจคําศัพท์ 6,500-9,600 คํา พูดคําศัพท์ประมาณ 2,000 คําขึ้นไป พูดได้เป็นประโยคได้ประมาณ 4-5 คํา ใช้ไวยากรณ์ได้ถูกต้องเกือบเท่าผู้ใหญ่ สามารถบอกได้ว่าของสิ่งนั้นทําด้วยอะไร เช่น “บ้านทํามาจากอะไร” เสียงพยัญชนะที่ออกได้ชัดเพิ่มขึ้น คือ [ฟ ช ]
อายุ 6 ปี เข้าใจคําศัพท์ได้ประมาณ 13,500-15,000 คํา พูดได้ประมาณ 2,500คําขึ้นไป พูดเป็นประโยคได้ยาว 6 คําโดยเฉลี่ย รู้จักใช้คําเปรียบเทียบขนาดรูปร่าง เสียงพยัญชนะที่ออกได้เพิ่มขึ้นคือ [ส] ส่วนเสียง [ร] เด็กจะพูดชัดเจนเมื่ออายุ7 ปีขึ้นไป
อ้างอิง
คู่มือการฝึกพูดเบื้องต้น. จัดพิมพ์โดย สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2).