การช่วยเหลือเด็กสมาธิสั้นในโรงเรียน
การช่วยเหลือเด็กสมาธิสั้นในโรงเรียนนั้น คุณครูสามารถช่วยเหลือได้ตามแนวทางดังต่อไปนี้
1.การเรียน เพิ่มความสามารถในด้านการเรียน เพื่อช่วยให้เด็กสมาธิสั้นประสบผลสำเร็จด้านการเรียน (ตามศักยภาพ) และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.สังคม เพิ่มทักษะทางสังคมที่จำเป็นต่อการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นของเด็กสมาธิสั้น
3.พฤติกรรม ลดพฤติกรรมปัญหาที่รบกวนการเรียนรู้ อันเป็นผลจากอาการของโรคสมาธิสั้น
1.การช่วยเหลือด้านการเรียน
เด็กสมาธิสั้นควบคุมตนเอง จัดระเบียบให้ตนเองได้น้อยหรือไม่ได้เหมือนกับเด็กทั่วไป คุณครูควรช่วยจัดระเบียบการเรียนไม่ให้ซับซ้อนซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
1.1 การจัดกิจกรรมประจำวัน
1.1.1 กิจกรรมในแต่ละวันต้องมีลักษณะคงที่ มีตารางเรียนแน่นอน
1.1.2 บอกเด็กล่วงหน้า และเตือนความจำทุกครั้งก่อนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เตือนก่อนหมดชั่วโมงเรียน 5 นาที เมื่อหมดชั่วโมงเรียนเตือนเด็กอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเรียนชั่วโมงต่อไป
1.1.3 ทำป้าย ข้อความ สัญลักษณ์ เพื่อช่วยเตือนความจำเด็กในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ให้เด็กเขียนชื่อวันที่ต้องใช้หนังสือหรือสมุดลงบนปก เพื่อจัดตารางเรียนให้สะดวก
1.2 การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็ก
1.2.1 การจัดห้องเรียน
-ชั้นเรียนที่เหมาะสมกับเด็ก ควรมีขนาดเล็กที่มีเด็กไม่มากเกินไป เช่น มีประมาณ 20 คน
-สร้างกฎระเบียบที่ชัดเจน และมีความสม่ำเสมอ คงเส้นคงวาในการรักษากฎ ทบทวนข้อตกลงบ่อยๆ เช่น ไม่ส่งเสียงดังในห้องเรียน ส่งการบ้านเป็นที่ เป็นต้น
-จัดหาที่วางของห้องเรียนในตำแหน่งเดิม เพื่อให้เด็กจำง่าย วางให้เป็นที่เป็นทาง
-หลีกเลี่ยงการตกแต่งห้องเรียนด้วยสีสันสวยหรู เพราะจะทำให้เด็กสนใจสิ่งเร้านั้น มากกว่าสนใจการสอนของครู
-จัดโต๊ะเรียนให้เป็นระเบียบ
-ให้มีสิ่งของบนโต๊ะเรียนของเด็กให้น้อยที่สุด
1.2.2 การจัดที่นั่ง
-จัดให้นั่งข้างหน้า หรือแถวกลาง เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้ครูเพื่อจะได้ดูแลได้อย่างใกล้ชิด
-ไม่อยู่ใกล้ประตูหรือหน้าต่างที่มองเห็นข้างนอกห้องเรียน
-ไม่ให้เพื่อนที่ซุกซนนั่งอยู่ใกล้ๆ จัดให้เด็กเรียบร้อยนั่งขนาบข้าง
1.3 จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับความสามารถและช่วงความสนใจของเด็ก
1.3.1 การเตรียมการสอน
-เตรียมเอกสารที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่ อ่านง่าย พิมพ์ด้วยสีเข้ม มีช่องไฟกว้าง
-งานที่ให้ทำต้องเหมาะสมกับความสนใจและความสามารถของเด็ก เด็กในห้องอาจทำงานทีละ 20 ข้อ แต่เด็กสมาธิสั้นอาจให้ทำงานทีละ 5 ข้อ เมื่อทำเสร็จ 5 ข้อ ก็ให้เด็กเปลี่ยนอิริยาบถ
-การเปลี่ยนอิริยาบถเป็นการปลดปล่อยพลังงานในทางสร้างสรรค์ ช่วยลดความเบื่อของเด็ก ทำให้เรียนได้นานขึ้น เช่น ช่วยครูเดินแจกสมุดให้เพื่อนในห้อง ช่วยลบกระดาน เป็นต้น
-เลือกกิจกรรมการเรียนการสอนที่ต้องใช้ประสาทรับรู้หลายด้าน ทั้งด้านการฟัง การใช้สายตาหรือการลงมือปฏิบัติ
-ใช้สื่อเป็นรูปภาพประกอบ เพื่อให้เด็กจับประเด็นได้ง่าย
1.3.2 ระหว่างการสอน
-เขียนงานที่เด็กต้องทำในชั้นเรียนให้ชัดเจนบนกระดาน (กระดานขาวดีกว่ากระดานดำ) อย่าเขียนจนแน่นเต็มกระดาน
-พยายามสั่งงานด้วยวาจาให้น้อยที่สุด หากต้องสั่งงานด้วยวาจาให้เด็กทบทวนคำสั่ง
-ตรวจสมุดงานของเด็กเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจดงานได้ครบถ้วน
-ให้เด็กทำงานตามเวลาที่กำหนดให้ เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้วงานยังไม่เสร็จคุณครูต้องตรวจงาน
-ใช้การสอนแบบตัวต่อตัว เพื่อควบคุมให้เด็กมีสมาธิ
-ยืดหยุ่นการเรียนการสอนให้เข้ากับความพร้อมของเด็กโดยเฉพาะในรายวิชาหลักหรือวิชายาก เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เป็นต้น
-ฝึกให้เด็กตรวจสอบทบทวนผลงาน การจดบันทึก
-ช่วยให้เด็กสนใจบทเรียน โดยใช้สีระบายคำสำคัญ ข้อความสำคัญ วงรอบหรือตีกรอบข้อความสำคัญที่ครูเน้น
-ใช้วิธีเตือนหรือเรียกให้เด็กกลับมาสนใจบทเรียน โดยไม่ทำให้เด็กเสียหน้า เช่น เคาะที่โต๊ะเด็ก หรือแตะไหล่เด็กเบาๆ
-ให้คำชมเชย หรือรางวัลเล็กๆน้อยๆ เมื่อเด็กปฏิบัติตัวดีหรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
-สนับสนุนจุดเด่นหรือข้อดีในตัวเด็กให้แสดงออกมา เพื่อให้เด็กเกิดความภูมิใจในตนเอง
-หลีกเลี่ยงการใช้วาจาตำหนิ ประจาน ประณามที่จะทำให้เด็กรู้สึกอับอาย และไม่ลงโทษเด็กรุนแรง เช่น การตี
-ใช้วิธีการตัดคะแนน งดเวลาพัก ทำเวร หรืออยู่ต่อหลังเลิกเรียน (เพื่อทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ) เมื่อเด็กทำผิด
1.3.3 การมอบหมายงาน
-ควรพูดช้าๆ ชัดเจน กระชับ ครอบคลุม ไม่ใช้คำสั่งคลุมเครือ ประชดประชัน บ่น ตำหนิติเตียนจนเด็กแยกไม่ถูกว่าครูให้ทำอะไร
-ให้เด็กทบทวนที่ครูสั่งหรืออธิบายก่อนลงมือทำ เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจในสิ่งที่ครูพูด
-ในกรณีที่เด็กมีสมาธิสั้นมาก ควรแบ่งงานออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ ให้เด็กทำทีละขั้น ไม่มุ่งเน้นคุณภาพของงานเป็นหลัก แต่พยายามเน้นในเรื่องความรับผิดชอบทำงานให้เสร็จ
1.4 การช่วยเหลือด้านทักษะเฉพาะในการเรียน
1.4.1 ทักษะในการอ่านหนังสือ คุณครูอาจเลือกหนังสือที่เด็กชอบมาให้เด็กอ่านเสริม โดยหนังสือที่อ่านไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียน อาจเป็นหนังสือผจญภัย หนังสือสอบสวน หนังสือชีวิตสัตว์ ชีวประวัติ ประวัติศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ก็ได้ จากนั้นควรพูดคุยถึงสิ่งที่อ่านให้เล่าเรื่อง หรือให้สรุป
1.4.2 ทักษะการเขียนหนังสือ การฝึกให้เขียนหนังสือบ่อยๆ จะทำให้สายตาและมือทำงาน ประสานกันได้ดีขึ้น เช่น ฝึกให้เขียนสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน เขียนบรรยายความรู้สึกต่อพ่อแม่ เขียนแผนที่คาดว่าจะทำในช่วงปิดภาคเรียน
1.4.3 ทักษะการฟังและจับประเด็น ฝึกเด็กให้สรุปสิ่งที่ได้ยิน ได้เห็น ได้ลองทำตาม จะเป็นรากฐานที่ดีในการช่วยฝึกสมาธิ
1.4.4 ทักษะในการวางแผนทำงาน คุณครูควรฝึกเด็กให้เรียงลำดับงานสำคัญ ก่อน- หลัง ตั้งสมาธิกับงานและลงมือทำ
1.4.5 การทำการบ้าน
-จัดแบ่งการบ้านออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้เด็กสามารถลงมือทำจนสำเร็จได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเด็กทำงานเสร็จเองบ่อยๆจะทำให้เด็กอารมณ์ดี พอใจในตนเอง สถานการณ์เช่นนี้ จะทำให้เด็กมีความพยายามในการทำงานเพิ่มขึ้น
-เรียงลำดับข้อที่ง่ายไว้ข้อแรกๆ เพื่อให้เด็กเริ่มทำงานที่ง่ายแล้วเสร็จเร็วไปสู่งานที่ซับซ้อนยุ่งยากหรือมีปัญหาที่ต้องใช้เวลาแก้นานขึ้น
-ให้เด็กเริ่มทำงานที่มีความเร่งด่วน ที่ต้องส่งก่อน
-มอบหมายการบ้านให้ฝึกอ่านหนังสือ และทบทวนบทเรียนจนติดเป็นนิสัย
1.4.6 เทคนิคในการเรียน
-สอนให้เด็กใช้เทคนิคช่วยจำ เช่น การใช้แถบปากกาสี การขีดเส้นใต้ข้อความที่สำคัญ การย่อประเด็นสำคัญ การจดสูตร หรือ คำยากๆ ในสมุดบันทึก
-การหัดคิดเลขกลับไปกลับมา
-ฝึกสอนเทคนิคในการทำข้อสอบ เช่น ข้อสอบที่จับเวลา หรือมีเวลาจำกัด ข้อที่ทำไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน อย่าลืมวงหน้าข้อเพื่อกลับมาทำซ้ำ หรือเพื่อไม่ให้วงสลับข้อเป็นต้น
1.5 ช่วยเด็กจัดการเกี่ยวกับเวลา
เด็กสมาธิสั้นรู้เกี่ยวกับเวลาว่าต้องทำสิ่งใดบ้าง แต่ปัญหาของเด็กคือ “ แบ่งเวลาไม่เป็น” การตั้งเวลาและการเตือนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเด็ก อย่าคาดหวังให้เด็กรู้จักเวลาเอง สิ่งที่คุณครูสามารถช่วยได้คือ
1.5.1 เตือนให้เด็กตรงต่อเวลา โดยส่งสัญญาณเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลานัด หรือเวลาต้องส่งงาน และบอกเด็กอีกครั้งเมื่อถึงเวลาส่งงาน
1.5.2 ช่วยเด็กจัดทำกำหนดเวลาหรือปฏิทินงาน ทำลงกระดาษติดไว้ที่โต๊ะเรียน กระเป๋า และหน้าสมุดของเด็ก
1.5.3 ใช้นาฬิกาเตือน โดยอาจใช้นาฬิการะบบสั่นสะเทือน เพื่อป้องกันการรบกวนเด็กอื่น
1.5.4 ให้แรงเสริมทางบวก เช่น คำชม การสะสมดาวเพื่อแลกของรางวัล เป็นต้นเมื่อเด็กทำงานตามเวลา
อ้างอิง
หนังสือเด็กสมาธิสั้น คู่มือสำหรับครู. สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข.โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด. หน้า 25- 34.