สมองของเด็กเล็กเป็นยังไงนะ
เด็กเรียนรู้โลกโดยอาศัยการรับรู้ (sense)ของตัวเองโดยอาศัยร่างกายของตัวเอง ไม่ใช่โดยการที่คนอื่น “บอกให้รู้”
พ้นจากวัยทารกแล้ว พัฒนาการการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็กเล็กตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไปจนถึงวัยประถมศึกษา ก็คือพัฒนาการของความสนใจ (attention) เพราะความสนใจนี้แหละ ที่จะทำให้เด็กแต่ละคนเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา แตกต่างกันอย่างแท้จริง
![]() |
|||
|
|||
ตอนวัยทารก เด็กจะสำรวจทุกอย่างที่ขวางหน้า เด็กอาจแสดงออกมาบ้างแล้วว่า ชอบอันนี้ ไม่ชอบอันนั้นแต่ผู้ใหญ่ก็ยังคงสามารถจะกำกับเด็กทารกได้ไม่ยากนัก เช่น ถ้าย้ายของที่เด็กสนใจไปให้พ้นจากสายตาสักพักเด็กก็ลืมไปแล้ว สำหรับเด็กวัยอนุบาลและประถมนั้นต่างออกไปมาก เด็กจะไม่เที่ยวลุยรื้อของไปทั่วบ้านแต่จะเล่นหรือทำอะไรอยู่ครั้งละนานๆ
พอย่างเข้าสู่ขวบที่ห้า บุคลิกพื้นฐานส่วนใหญ่ของเด็กจะก่อรูปขึ้นหมดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่จะมีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาในขวบต่อๆมา บุคลิกภาพของเด็กจะถูกพัฒนาขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้นตามแนวทางที่ถูกสร้างมาก่อนหน้านี้
เมื่อเริ่มพูดได้คล่องเป็นคำประโยคเด็กจะเริ่มใช้ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อเรียนรู้เรื่องราว เกิดความคิด สร้างความเข้าใจ และเปลี่ยนความคิดความเข้าใจ และเปลี่ยนความคิดความเข้าใจของตัวเอง หาข้อมูลในเรื่องที่สำคัญที่สมองจะพัฒนาความสามารถในการคิด สติปัญญาจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะยังคิดอะไรเป็นนามธรรมไม่ได้ แต่มันจะค่อยๆก่อรูปขึ้นมาแล้ว
ผู้ใหญ่อยากให้เด็กเป็นคนดีและฉลาด ก็จะมีพยายามพร่ำพูดสอนเรื่องต่างๆ เช่น จำนวน การบวก การลบ ธรรมชาติ กฎ ระเบียบ ความดี ความชั่ว ฯลฯ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เด็กยังคงต้องการที่จะได้รับประสบการณ์ตรงผ่านเหตุการณ์ และโลกของวัตถุสามมิติ เด็กจำเป็นต้องสัมผัสจับต้องและพบเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง เด็กเรียนรู้ได้ดีด้วยวิธีนี้มากกว่าที่จะนั่ง “คิด” ลอยๆโดยขาดประสบการณ์ของตนเอง
ต้องตระหนักไว้ว่าเด็กจะยังคงเรียนรู้โลกโดยอาศัยการรับรู้ของตนเอง และโดยอาศัยร่างกายของตนเอง ไม่ใช่โดยการที่คนอื่น “บอกให้รู้” เด็กจึงเป็นนักทำตัวฉกาจ
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
1.สมองวัยเด็กเล็ก เป็นช่วงสำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตที่จะสร้างตัวตนของเด็กวิธีการเลี้ยงดูเด็กวัยนี้จึงสำคัญมาก
2.อย่าเห็นว่าคำถามของเด็กเป็นสิ่งไร้สาระแบบเด็กๆทุกคำถามของเด็ก ควรได้รับคำตอบ ควรให้ความสำคัญกับการสนทนากับเด็ก
3.ควรฝึกให้เด็กอนุบาลและประถมมีน้ำอดน้ำทน ผ่านการเล่น และการทำงานต่างๆที่เหมาะสมกับวัย การเลี้ยงดูเด็กแบบ “ไข่ในหิน” จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างอ่อนแอ
ข้อมูลจาก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความลับสมองของลูก. กรุงเทพ : สำนักงาน, 2552 หน้า 11- 18.