หลักพื้นฐานในการฝึกกระตุ้นพัฒนาการทางภาษา ลูกพูดช้า ไม่พูด
วัตถุประสงค์หลักในการฝึกกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาแก่เด็กเล็ก คือความพยายามช่วยให้เด็กสื่อสาร เพื่อบอกความต้องการ ความคิด และอารมณ์ให้ผู้อื่นรับทราบได้ และรับรู้ เข้าใจภาษาท่าทาง และภาษาพูดของคนอื่น การช่วยเหลือเด็กในกลุ่มนี้ต้องเกิดจากความร่วมมือ ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ได้แก่ บิดามารดาหรือผู้ที่เลี้ยงดูเด็ก แพทย์ พยาบาล นักแก้ไขการได้ยิน นักจิตวิทยา ครูการศึกษาพิเศษ และนักแก้ไขการพูด โดยเด็กควรได้รับการฝึกฝนและใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้เป็นประจำในสถานการณ์จริง จนพัฒนามาเป็นทักษะการสื่อสารและทักษะทางสังคม
แนวทางในการให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงดูเด็กที่มีพัฒนาการทางภาษาล่าช้ามีดังนี้คือ
1. ออกเสียงพูดให้ชัดเจนเพื่อเป็นแบบอย่างในการพูดที่ดีให้กับเด็ก
2. ในเด็กที่มีความสามารถเข้าใจภาษาไม่สมวัย ผู้เลี้ยงดูควรพูดในสิ่ง ที่เด็กสนใจ หรือกำลังทำอยู่ ในเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ดี เมื่อเสียงที่ได้ยินตรงกับสิ่งที่เด็กกำลังให้ความสนใจ ร่วมกับฝึกให้เด็กทำตามคำสั่ง โดยในช่วงแรกถ้าเด็กยังฟังไม่เข้าใจ อาจจะจับมือทำพร้อมกับพูดไปด้วยเพื่อช่วยให้เด็กหัดเชื่อมโยงคำพูดกับสิ่งของและการกระทำ ต่อไปจะได้เข้าใจในสิ่งที่ผู้เลี้ยงดูพูด และเปิดโอกาสให้เด็กเลียนการเปล่งเสียงตาม
3. สร้างโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาเพิ่มขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การชี้ชวนให้ดูหนังสือที่มีรูปภาพประกอบ การอ่านหนังสือนิทาน การเล่นสมมติร่วมกัน ร้องเพลง ในเด็กพัฒนาการทางภาษาล่าช้าที่มีประวัติในการใช้เวลาในการดูโทรทัศน์มาก ควรลดเวลาในการดูโทรทัศน์ตามลำพังของเด็กลง
4. ฝึกให้เด็กพูดในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ โดยสนทนากับเด็กในสิ่งที่กำลังสนใจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยเทคนิคต่างๆต่อไปนี้ได้แก่13
4.1 การตั้งคำถามกับเด็กอย่างเหมาะสม ซึ่งควรใช้คำถามปลายเปิดที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่กำลังสนใจร่วมกันในเด็กเล็กความสามารถประมาณ 2-3 ปี อาจใช้คำถามอย่างง่าย เช่น “เรียกว่าอะไร” “กำลังทำอะไรอยู่ “อยู่ที่ไหน” ส่วนในเด็กที่พัฒนามากขึ้น อาจใช้คำถามที่ซับซ้อนขึ้นได้แก่ “ เอาไว้ทำอะไร” “ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นอีก” “ ทำไม” เป็นต้น
4.2 เป็นผู้ฟังที่ดี เมื่อพูดคุยกับเด็ก ให้เวลาในการที่เด็กตอบคำถามพอควรและฟังอย่างตั้งใจโดยการมองหน้า อ่านภาษาท่าทางและพฤติกรรมเด็ก ถ้าฟังคำตอบเด็กไม่เข้าใจ ให้ย้อนถามคำถามหรือถามคำถามจากคำตอบส่วนที่ฟังเข้าใจของเด็กด้วยท่าทีที่ไม่คุกคามหรือเร่งรัดเด็ก หากเด็กตอบคำถามไม่ได้ หรือตอบไม่ตรงคำถามให้ ถามคำถามที่จำเพาะเจาะจงหรือขยายความให้กระจ่างมากขึ้น เช่น “หนูคิดว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ” อาจถามใหม่เป็น “หนูคิดว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากรถไฟหยุดที่สถานี” เป็นต้น
4.3 ขยายความในคำตอบของเด็ก โดยรวบรวมส่วนคำตอบของเด็กให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์ขึ้น ร่วมกับให้แรงเสริม หรือคำชมแก่เด็กเมื่อเด็กสื่อสารอย่างเหมาะสม และให้โอกาสเด็กซักถามหรือตั้งคำถามต่อเพื่อให้เกิดการสนทนาในเรื่องเดียวกันอย่างต่อเนื่อง
5. ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้คำศัพท์ที่เขาเรียนรู้มาใหม่ในสถานการณ์ต่าง ๆ และสร้างโอกาสให้เด็กเห็นถึงความสำคัญของการสื่อความหมายโดยใช้ภาษาพูด โดยให้การสนองต่อความต้องการของเด็กอย่างเหมาะสม
#เสริมพัฒนาการ, #ของเล่น #ฝึกพัฒนาการเด็ก, #พัฒนาการเด็ก, #ทักษะการเรียนรู้, #เสริมพัฒนาการเด็ก, #เสริมทักษะ, #brainschool, #ของเล่นฝึกสมาธิเด็ก, #ของเล่นเสริมพัฒนาการ, #ของเล่นพัฒนาสมอง, #ฝึกพัฒนาการลูกน้อย, #เสริมทักษะลูกน้อย,#ลูกพูดช้า, #ลูกไม่พูด, #โรงเรียนเสริมพัฒนาการ,#โรงเรียนเสริมทักษะนนทบุรี, #เรียนเสริม, #สมาธิซนอยู่ไม่นิ่ง #เด็ก2ขวบ #เด็ก3ขวบ #เด็ก4ขวบ#เด็ก5ขวบ #เด็ก6ขวบ
📚#คอร์สพัฒนาศักยภาพสมองเชาว
#ลูกพูดช้า, #ลูกไม่พูด, คอร์ส ฝึก พูด เด็ก